วันนี้น้องเกรซ ขอมาแหวกแนวนิ๊ดส์นึงนะคะ ^0^ มา HIP กันที่ Karaoke City ค่ะ
ที่นี่ เค้าจะแบ่งโซนของห้องไว้หลายโซนค่ะ เช่น โซน ยุโรป เอเชีย แอฟริกา โยแต่ละห้องจะเป็นชื่อของเมืองสำคัญๆเช่น ห้องโตเกียว ห้องแคริฟอร์เนีย ห้องลอนดอน ห้องอัมสเตอดัม ค่ะ
และราคาก็จะแตกต่างกันไปตามขนาดของห้องด้วยค่ะ จะมีตั้งแต่ราคา 1,500 2,500 3,500 4,500 บาทค่ะ ภาพด้านล่างนี้ ก็จะเป็นห้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องของพวกเรา สังเกตดูว่าจะเป็นอาคาร 2 ชั้น
แบบ Stand Alone
ทางเดินเชื่อมไปยังตัวอาคารของ โซนต่างๆ จะเป็นทางเดินไม้
ด้านหลังของตัวห้องคาราโอเกะ จะถูกตกแต่งไปด้วยต้นไม้ ดูๆ ไปบรรยากาศเหมือนรีสอร์ทค่ะ แต่ละห้องก็จะมี ชื่อบอกว่าไว้ด้วยว่าเป็นห้องอะไร อย่างห้องในภาพนี้ชื่อ ฮาวาย1 ค่ะ
ที่นี่..ต้องยอมรับเลยค่ะว่า เค้าทำบรรยากาศได้ดีมากๆ คือ เป็นห้องคาราโอเกะกลางน้ำ การตกแต่งทันสมัย อย่างที่บอกคือเหมือนรีสอร์ท ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ไม่เหมือนสถานบันเทิงมากนักค่ะ คือเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว อาจจะเป็นวันเกิดคุณพ่อ หรือคุณแม่ มาฉลองกับลูกๆ หลานๆก็ยังได้เลย
เค้ามีป้ายบอกด้วยว่า โซนต่างๆต้องเดินไปทางไหน ป้ายขวามือสีแดงนี่คือ ห้องไนโรบี ค่ะ เป็นห้องที่พวกเราเปิดการแสดง (ทั้งร้องทั้งเต้น) ^0^
มาดูบรรยากาศในห้องบ้างดีกว่า ภายในตกแต่งเหมือนห้องรับแขกภายในบ้านค่ะ ดีไซด์ก็ออกแนวทันสมัย เรียบๆเน้นการใช้สีสันซะมากกว่า
ห้องเนี่ย จะเน้น เป็นกระจกใสๆ ทำให้ดูโล่งโปร่งสบาย ไม่อึดอัด โซฟานั่งสบาย
เรามาดูอาหารกันบ้างดีกว่าค่ะ
|
เมนูแรก กุ้งทอดครีมสลัด ข้อไก่ทอด
กุ้งทอดเกลือ
ต้มยำปลาคลัง
ทะเลกระทะร้อน
ข้าวผัดในจานแปรใหญ่ยักษ์ "ข้าวผัดปู"
โดยรวม เกรซรู้สึกชอบที่นี่มาก บรรยากาสดี อาหารอร่อย เปิดการแสดงกันตั้งแต่ทุ่มกว่าๆ ถึงตีหนึ่ง เสียงแห้ง ปวดเมื่อย ไปตามๆกัน ก็ทั้งร้องทั้งเต้นมันกันได้โดยไม่ต้องใช้แอลกอฮอรล์ค่ะ ^^ ข้อมูลร้าน: ถนนเรีบทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ เปิดบริการ: ทุกวัน 18.00-01.00
...สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนในกรุงเทพ...
ตลาดน้ำตลิ่งชัน
ตลาดน้ำตลิ่งชัน ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางขุนศรี หรือที่คนทั่วไปคุ้นเคยเรียกกันติดปากว่า "คลองชักพระ" มีความสวยสดงดงาม มีอากาศบริสุทธิ์วิ่งวนหล่อเลี้ยงอยู่ทุกอณูของลมหายใจ ราวกับได้ย้อนยุคกลับไปสู่สังคมในอดีตที่มลพิษยังไม่ก้าวล้ำข้ามเส้นแบ่งมารบกวน ภาพโดยรวมของสถานที่แห่งนี้เป็นตลาดกึ่งชนบท ที่ผสมผสานวิถีชีวิตริมน้ำของชาวบ้านกับธรรมชาติเอาไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้สิ่งที่ปรากฏให้เห็นอยู่ตรงหน้าเมื่อไปเยือน คล้ายภาพถ่ายในอดีตที่ผู้คนต่างทำมาหากินในระดับชีวิตแบบพอเพียง ด้วยการเก็บพืชผัก ผลไม้ จากไร่สวนมาขายทำให้ผลผลิตที่วางเรียงรายขาย จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามฤดูกาล บางคนก็แปลงกายจากแม่บ้านเป็นแม่ค้าโชว์ฝีมือทำอาหารรสเด็ดตามสไตล์ที่ถนัด ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปที่ของหวานและอาหารรสจัด รสชาติไทยแท้แบบดั้งเดิม
ด้านหน้าของตลาดน้ำก่อนจะลงไปสู่ตัวแพ สองข้างทางเต็มไปด้วยของขายละลานตามากมาย ทั้งขนมหวานที่หาทานยาก ผลไม้เนื้อนุ่มหวานฉ่ำ งานหัตถกรรมฝีมือดีน่าชื่นชมจากภูมิปัญญาชาวบ้าน รวมถึงของดีฝั่งธน ต้นไม้และกล้วยไม่นานาพันธุ์ที่เพาะส่งตรงมาจากสวนส่วนตัว
ร้านหมูสะเต๊ะ ริมทางเดินก่อนลงโป๊ะซึ่งต้องขอยกนิ้วให้กับน้ำจิ้มสูตรเด็ด ที่บดถั่วลิสงหยาบๆ ผสมลงไปด้วย ความกรุบกรอบ น้ำจิ้มที่หวานมันกับเนื้อหมูนุ่มเข้ากันอย่างลงตัว
ร้านขนมเบื้องญวณ คนขายหน้าตาอิ่มเอิบดุใจดีนั่งขายอยู่ไม่ไกลจากทางลงแพ การันตีว่าขนมเบื้องญวณร้านนี้ ครบเครื่องสูตรแท้ดั้งเดิม ยิ่งเมื่อตักเป้นคำเล็กๆ ทานคู่กับอาจาดความหวานของไข่จะคลุกเคล้ากับส่วนผสมข้างในเป็นอย่างดี
แถบฝั่งธนจะมีสวนกล้วยไม้สำหรับตัดดอกมาขายกันเยอะ ดังนั้นจึงมีดอกกล้วยไม้มาขายกันมากมายหลายชนิด และมีต้นไม้ีให้เลือกซื้อกลับไปปลูกกันที่บ้านกันอีกด้วย
หลังจากที่หนังท้องตึงก็ถึงเวลาผ่อนคลายกันด้วยกิจกรรมเบาๆ แต่ฮอตฮิตเป็นอย่างมากสำหรับผู้มาเยือนที่นี่ นั่นคือ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นั่งเรือทัวร์คลอง สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติอันหลากหลาย ของสองฟากฝั่งคลอง โดยพาหนะที่ช่วยโน้มดึงให้ผู้มาเยี่ยมเยียนกลมกลืนไปกับสายน้ำแห่งนี้มากขึ้น คือเรือหางยาวท้องแบนรูปตัววี ซึ่งในปัจจุบันแทบจะไม่ค่อยมีให้ได้พบเห็นกันแล้ว
รายรอบสองข้างทางระหว่างนั่งเรือ ภาพที่ปรากฏให้เห็นคล้ายเป็นภาพอันสวยสดในโปสการ์ดหลุดออกมา ไม่ว่าจะเป็นภาพเด็กกระโดดลงเล่นน้ำริมคลองอย่างสนุกสนาน การซื้อของข้ามคลองโดยการชักรอก ต้นลำพูที่ปล่อยรากอากาศยาวหยอกล้ออยู่กับแม่น้ำ รวมไปถึงบ้านเรือนไทยซึ่งปลูกสร้างอย่างสวยงาม
รวมถึงการได้ชมความงามของวัดวาอารามเก่าแก่ริมฝั่งคลอง ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยปลายกรุงศรีอยุธยาและต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ต่อด้วยความประทับใจที่ไม่มีวันลืมกับการได้สัมผัสประเพณีเก่าแก่ ลอดใต้อุโบสถให้สูงขึ้นจากพื้น 2 เมตร พร้อมทำบุญให้อาหารปลาบนเรืออย่างสนุกสนานอีกด้วย
ความครบครันของวิถีชีวิต ธรรมชาติ และ บรรยากาศในตลาดน้ำตลิ่งชันที่ไหลวิ่งเวียนวนอยู่คู่กับชาวบ้านมานานแสนนาน เป้นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยยกระดับให้เมืองกรุงพร้อมอวดโฉมรับสมญานาม "เวนิสตะวันออก"อย่างเต็มภาคภูมิมากยิ่งขึ้น
รายละเอียดเกี่ยวกับตลาดน้ำตลิ่งชัน
ที่ตั้ง : บริเวณหน้าสำนักงานเขตตลิ่งชัน แขวงคลองชักพระ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
เปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น
ที่จอดรถ : ลานจอดรถของ สนง.เขตตลิ่งชันเลย ถ้าเต็มให้ขับรถตรงออกมา จะมีที่จอดรถของเขตอีกที่นึงทางด้านซ้ายมือ (อยู่ใกล้เคียงกับ วัดกาญจนสิงหาสน์ วัดรัชฏาธิฐาน วัดเรไร ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร)
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น